LOGO-TMW-MARKETING-BLACKLOGO-TMW-MARKETING-BLACKLOGO-TMW-MARKETING-BLACKLOGO-TMW-MARKETING-BLACK
  • หน้าแรก
  • Internet Marketing
    • Google Ads
    • SEO ฉบับสมบูรณ์
    • รับทำเว็ปไซต์ WordPress
    • รับทำเว็ปไซต์
  • ธุรกิจ และ การตลาด
  • การเงิน การลงทุน
  • แรงบันดาลใจ และ การพัฒนาตนเอง
  • รีวิว และ Life Style
  • เกี่ยวกับเรา
Trendfollow
Trend follow | การเทรดตามแนวโน้ม
July 29, 2023
AB Testing
การทำ AB Testing: การทดสอบที่ปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจของคุณ
July 29, 2023
Published by admin on July 29, 2023
Categories
  • การเงิน การลงทุน
Tags
  • การเทรดคือ
  • การเทรดสำหรับมือใหม่
  • การเทรดหุ้น
  • เทรดคือ
เทรด คือ

การเทรดคืออะไร? คำแนะนำ, กลยุทธ์และเทคนิคที่จำเป็นสำหรับการเทรดที่ประสบความสำเร็จ

เทรด คือ

การเทรดและส่วนประกอบสำคัญของการเทรดที่สำเร็จ

การเทรดหรือการค้าซื้อขายทรัพยากรทางการเงินเช่น หุ้น, ที่ดิน, สินค้าภัณฑ์หลัก, สกุลเงิน, หรือเหรียญคริปโต เป็นกิจกรรมที่คนอยู่ทุกมุมโลกนำมาใช้เพื่อสร้างผลกำไรทางการเงิน

แต่แม้กระนั้นการเทรดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่คนทั่วไปสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยความคิดฝันเท่านั้น แต่ต้องมีความรู้และทักษะที่เหมาะสม ข้างล่างนี้คือส่วนประกอบสำคัญของการเทรดที่สำเร็จ:

  1. การศึกษาและการเรียนรู้: การเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดสิ่งสำคัญมาก ซึ่งรวมถึงการรู้เกี่ยวกับเครื่องมือการเทรด วิธีการวิเคราะห์ทั้งในแง่ทางเทคนิคและทางพื้นฐาน การใช้แพลตฟอร์มการเทรด และการรู้เรื่องภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก
  2. การวางแผนและการวางกลยุทธ์: การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนและการทำตามกลยุทธ์สำคัญมาก การเทรดไม่ใช่การพนัน แต่ความสำเร็จในการเทรดมาจากการตัดสินใจที่มีการวางแผนและสร้างมาอย่างรอบคอบ
  3. การจัดการความเสี่ยง: การจัดการความเสี่ยงนั้นสำคัญไม่แพ้การสร้างกำไร การรู้ว่าคุณจะเสี่ยงเท่าไหร่ การตั้งเป้าหมายการหยุดความเสียหาย (stop-loss) และการรับรู้ว่าความเสี่ยงที่คุณยอมรับมันคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่คาดหวัง
  4. จิตวิทยาในการเทรด: จิตวิทยามีผลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจในการเทรด หลายครั้งผู้เทรดสามารถทำให้ตัวเองเสียหายด้วยความเครียด ความหวัง ความกลัว หรือความโลภ การสามารถควบคุมอารมณ์และสมองให้มีสภาพความเป็นมาก่อนที่จะเข้าการเทรดจะทำให้คุณมีการตัดสินใจที่ดีขึ้น

ด้วยส่วนประกอบเหล่านี้, การเทรดจึงไม่ได้เป็นการทายผลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการตัดสินใจที่มาจากความรู้ การวางแผน การจัดการความเสี่ยง และการควบคุมจิตวิทยาของตนเอง ดังนั้น การเทรดที่สำเร็จนั้นต้องการการฝึกฝน การเรียนรู้ และการสร้างประสบการณ์

กลยุทธ์ การเทรด

การเทรดที่ประสบความสำเร็จนั้นมักจะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพ รูปแบบการใช้ชีวิต และเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคน นี่คือภาพรวมของกลยุทธ์การเทรดหลักๆ ที่นักเทรดนิยมใช้:

  1. กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น (Day Trading): กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อและขายในระยะเวลาเดียวกันในหนึ่งวันเพื่อที่จะทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะสั้น มันต้องการความตั้งใจและการตัดสินใจที่รวดเร็วและมักเป็นทางเลือกของนักเทรดที่เต็มเวลา
  2. กลยุทธ์การเทรดแบบสวิง (Swing Trading): นักเทรดแบบสวิงทำการซื้อหรือขายสินทรัพย์เมื่อเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนที่กำลังเกิดขึ้นหรือจะจบลง และพยายามที่จะได้รับผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในราคาในระยะสั้นถึงกลางคืน
  3. กลยุทธ์การเทรดแบบตามแนวโน้ม (Trend Trading): กลยุทธ์นี้มักจะเป็นทางเลือกของนักเทรดระยะยาวที่พยายามที่จะทำกำไรจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งในช่วงระยะเวลาที่ยาวกว่า นักเทรดแนวโน้มอาจจะถือสินทรัพย์นั้นไปหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้กระทั่งหลายปี
  4. กลยุทธ์การเทรดแบบการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Trading): นักเทรดแบบนี้ศึกษาพื้นฐานของบริษัท ประเทศ หรือสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อพยายามทำนายการเปลี่ยนแปลงในราคา ทั้งนี้อาจรวมถึงการวิเคราะห์รายงานผลการเงิน สภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ
  5. กลยุทธ์การเทรดแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Trading): กลยุทธ์นี้มีโฟกัสเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟราคาเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มที่อาจช่วยทำนายการเปลี่ยนแปลงในราคาในอนาคต

เมื่อคุณเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับคุณแล้ว จำเป็นที่จะต้องสร้างแผนการเทรดที่มีการจัดการความเสี่ยงและการตั้งเป้าหมายการเทรดที่ชัดเจน การทดสอบและปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว.

ความสำคัญในการ Cut Loss สำหรับ Trader

การ “Cut Loss” หรือการหยุดความเสียหาย เป็นกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ไม่ควรละเลยสำหรับผู้เทรดใด ๆ กลยุทธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดการสูญเสียจากการเทรดที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพื่อไม่ให้ผลกระทบต่อทุนในระยะยาว ดังนั้นการตั้งระดับที่จะ Cut Loss เป็นส่วนสำคัญของแผนการจัดการความเสี่ยงทุกๆ แผน

ลดความเสี่ยง

การ Cut Loss ช่วยให้นักเทรดสามารถลดความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียเงินทุนมากเกินไปจากการเทรดเดียว ด้วยการตั้งเป้าการ Cut Loss, คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่สูญเสียเงินเกินกว่าที่คุณได้ตั้งไว้

รักษาสภาพจิตใจ และจิตวิทยาการเทรด

การเทรดในสภาวะที่เครียดและภาวะอารมณ์ที่ไม่ดีสามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ การตั้งระดับ Cut Loss ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้คุณสามารถที่จะมุ่งมั่นกับการเทรดอื่น ๆ ได้

รักษาแผนการเทรด

การตั้งระดับ Cut Loss เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรด โดยที่การปฏิบัติตามแผนนั้นมีความสำคัญมากสำหรับนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ

การฟื้นตัวเร็วขึ้น

ถ้าคุณสามารถจำกัดการสูญเสียทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อการเทรดของคุณมีผลลัพธ์ที่ไม่ดี คุณจะสามารถกลับมาฟื้นตัวและเริ่มเทรดใหม่ได้เร็วขึ้น

การ Cut Loss เป็นทักษะที่ไม่ควรมองข้ามในวงการเทรด แม้มันอาจดูเหมือนเป็นการยอมแพ้ แต่ในความเป็นจริง มันเป็นวิธีการที่นักเทรดทุกคนใช้เพื่อที่จะคงอยู่ในเกมการเทรดในระยะยาว

การทำ Money Management สำหรับ Trader

การจัดการเงิน หรือ Money Management สำหรับนักเทรดนั้นเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสำเร็จในการเทรด มันช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเงินทุนในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากการสูญเสียทุน นี่คือหลักการที่สำคัญในการจัดการเงิน:

1. จัดการความเสี่ยง:

คุณควรจะตั้งกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดเดียว ไม่ควรเกิน 1-2% ของทุนทั้งหมด การตั้งเป้าความเสี่ยงนี้ช่วยให้คุณป้องกันการสูญเสียเงินทุนมากเกินไปในการเทรดเดียว

2. สัดส่วน Risk/Reward:

สัดส่วน Risk/Reward คือการวัดผลตอบแทนที่คาดหวังเทียบกับจำนวนเงินที่คุณเสี่ยงไว้ ผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะตั้งเป้าสัดส่วน Risk/Reward อย่างน้อย 1:2 หรือ 1:3 ทำให้คุณสามารถได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าจากการเสี่ยง

3. การใช้ Stop Loss และ Take Profit:

Stop Loss คือระดับราคาที่คุณตั้งไว้เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนมากเกินไป ในขณะที่ Take Profit คือระดับราคาที่คุณตั้งไว้เพื่อยืนยันกำไรในการเทรด การตั้ง Stop Loss และ Take Profit ควรจะสอดคล้องกับแผนการเทรดและสัดส่วน Risk/Reward ของคุณ

4. การวางแผนสำหรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด:

คุณควรจะมีแผนสำหรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้น เช่น ราคาสินทรัพย์ที่คุณเทรดร่วงลงอย่างรุนแรง การมีแผนจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. การตรวจสอบและปรับปรุง:

คุณควรตรวจสอบแผนการจัดการเงินของคุณอย่างสม่ำเสมอ และปรับปรุงมันตามความต้องการและสภาพการเงินของคุณ

ที่สำคัญ การจัดการเงินไม่ควรจำกัดอยู่เพียงการเทรดเท่านั้น คุณยังควรจะพิจารณาเรื่องการออมเงิน การลงทุนในทรัพย์สินอื่น และการวางแผนการเงินที่ยั่งยืนในระยะยาวด้วย.

Trader

ตัวอย่างบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ในการลงทุน และ การเทรด

  1. วาร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett): ถือว่าเป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก วาร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Berkshire Hathaway ที่มีมูลค่าหุ้นมากที่สุดในโลก วาร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้สไตล์การลงทุนที่เรียกว่า “การลงทุนมูลค่า” ซึ่งเน้นการซื้อหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าทางธุรกิจมากกว่าราคาตลาด
  2. จอร์จ ซอโรส (George Soros): เขาเป็นนักเทรดค่าเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จอร์จ ซอโรส รู้จักกันในชื่อ “ผู้ชายที่ทำลายธนาคารแห่งอังกฤษ” เมื่อในปี 1992 เขาทำกำไรจากการขายสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงได้สูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์
  3. จิม ซิมอนส์ (Jim Simons): เป็นผู้ก่อตั้ง Renaissance Technologies, บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่มีชื่อเสียง ซิมอนส์ ใช้การวิเคราะห์คณิตศาสตร์และสถิติในการเทรด ทำให้เขาสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินที่ผู้อื่นอาจพลาดไปได้

เพียงแค่สามตัวอย่างเท่านั้น แต่มีนักเทรดที่ประสบความสำเร็จอีกมากมายทั่วโลก แต่ทั้งหมดนี้ไม่มาโดยง่าย การสร้างอาชีพที่สำเร็จในการเทรดต้องการการฝึกหัดที่มาก ความเข้าใจในตลาด และความมุ่งมั่นที่มากที่สุด.

10 อันดับหนังสือ สำหรับการเริ่มต้น Trade

  1. “The Intelligent Investor” โดย Benjamin Graham: หนังสือนี้เป็นคู่มือพื้นฐานสำหรับการลงทุนมูลค่า ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่เน้นการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท
  2. “A Random Walk Down Wall Street” โดย Burton Malkiel: หนังสือนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นเป็นอิสระและไม่สามารถทำนายได้จริง ๆ
  3. “Market Wizards” โดย Jack D. Schwager: นักเทรดและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกส่งมอบเทคนิคและวิธีการของพวกเขาในหนังสือเล่มนี้
  4. “The Little Book of Common Sense Investing” โดย John C. Bogle: Bogle, ผู้ก่อตั้ง Vanguard Group, สาธิตให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในกองทุนตราสารที่มีค่าคอร์ปอเรชั่นรวม (Index Fund)
  5. “Technical Analysis of the Financial Markets” โดย John J. Murphy: หนังสือนี้เป็นคู่มือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการเทรด
  6. “Reminiscences of a Stock Operator” โดย Edwin Lefèvre: หนังสือนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ Jesse Livermore, นักเทรดที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 20
  7. “Trading in the Zone” โดย Mark Douglas: หนังสือนี้เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาการเทรด
  8. “The Disciplined Trader” โดย Mark Douglas: หนังสือเรื่องนี้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างดิสซิพลินในการเทรด
  9. “Common Stocks and Uncommon Profits” โดย Philip Fisher: หนังสือนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการทำงานของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากมาย รวมถึงวาร์เรน บัฟเฟตต์
  10. “How to Make Money in Stocks” โดย William J. O’Neil: หนังสือนี้เสนอเทคนิค “CAN SLIM” ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุน

ความรู้และทักษะที่ได้จากหนังสือเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถทำให้การเทรดของคุณดียิ่งขึ้นและสามารถทำกำไรจากตลาดได้มากขึ้น.

10 อันดับ ช่อง Youtube ที่ให้ความรู้ดานการเทรด

  1. Rayner Teo: Rayner เป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์ และเป็นนักสอนที่มีชื่อเสียงในการทำให้สิ่งซับซ้อนนั้นง่ายขึ้น และมีการอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด
  2. Trading 212: ช่อง YouTube นี้มีการสอนคุณภาพสูงเกี่ยวกับการเทรดและการลงทุน รวมถึงวิดีโอสอนการใช้แพลตฟอร์มการเทรด
  3. TheChartGuys: ช่องนี้เป็นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเฉพาะ โดยมีการตรวจสอบตลาดทุกวัน
  4. Adam Khoo: เป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จและเป็นนักสอน อดัม คู แบ่งปันเทคนิคการเทรด วิธีการจัดการเรื่องความเสี่ยง และความคิดเกี่ยวกับการลงทุน
  5. Trade Ideas: ช่องนี้มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์เรื่องเวลาจริงและการสแกนหุ้น ทำให้เหมาะสำหรับการเทรดในวัน
  6. UKspreadbetting: ช่องนี้มีเนื้อหาที่หลากหลาย เริ่มต้นจากการสอนแนวคิดพื้นฐานทางการเงินไปจนถึงกลยุทธ์การเทรดที่เฉพาะเจาะจง
  7. Financial Education: เน้นการอธิบายแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนและการเทรดในรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจ
  8. Trading Fraternity: ช่องนี้มุ่งเน้นการทำการเทรดแบบสดทั้งวัน ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้จากการตัดสินใจการเทรดแบบสดของนักเทรดมืออาชีพ
  9. Dumb Money: แสดงวิธีที่นักเทรดอาจจะใช้ข้อมูลจากที่ต่าง ๆ เพื่อหากำไรในตลาด
  10. Investopedia: รู้จักเป็นแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งศัพท์และแนวคิดพื้นฐานของการลงทุนและการเทรด

การรับชมช่อง YouTube เหล่านี้เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้และขยายความรู้ในด้านการเทรด แต่ควรจดจำว่า การเรียนรู้จากการลงทุนและการเทรดในทางปฏิบัติสำคัญเท่ากับความรู้ทางทฤษฎี

Share
0

Related posts

Trendfollow
July 29, 2023

Trend follow | การเทรดตามแนวโน้ม


Read more
การออมเงิน
March 15, 2023

การออมเงิน


Read more

Categories

  • การเงิน การลงทุน
  • ธุรกิจ และ การตลาด
  • รีวิว และ Life Style
  • อื่นๆ
  • แรงบันดาลใจ และ การพัฒนาตนเอง
© TMW Marketing Team. All Rights Reserved.